เกาะกูด ทะเลอันดามันแห่งภาคตะวันออก Koh Kood
Andaman Sea in the East
เกาะกูด
สุดน่านน้ำทะเลตราด
ทะเลอันดามันแห่งภาคตะวันออก
ด้วยระยะทางของเกาะกูดที่ไกลออกไปจากฝั่งแหลมงอบกว่า 80 กิโลเมตร ทำให้เกาะกูดห่างไกลจากมลพิษและผู้คน น้ำทะเลและหาดทรายบนเกาะจึงสวยงาม น้ำใสสะอาด
หาดทรายขาวละเอียดรอบเกาะ
ปะการังใต้ทะเลและฝูงปลาสวยงามที่ยังคงมีให้พบเห็นอยู่มาก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเสน่ห์ของเกาะกูดจนได้รับการขนานนามว่า
“อันดามันแห่งท้องทะเลตะวันออก”
ชื่อของเกาะกูด เชื่อกันว่ามาจากลักษณะของแหลมทางทิศตะวันออกที่ยื่นออกมา
โดยมีโค้งอ่าวยายเกิดและอ่าวกล้วยอยู่คนละด้านของแหลม ซึ่งแหลมนี้มีรูปร่างคล้ายหางเสือเรือ หรือชาวบ้านเรียกกันว่า ตะกูด ต่อมาเลยนิยมเรียกกันว่า
เกาะกูด
ส่วนในบางที่มาก็คิดว่าจากชาวต่างชาติที่ได้มาเยือน และชมเกาะกูดในความสวยงามด้วยคำว่า Good ต่อมาชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า เกาะกูด
ปัจจุบันมีฐานะเป็นกิ่งอำเภอเกาะกูด
ประกอบด้วย 3 หมู่เกาะ ได้แก่ เกาะกูด
เกาะแรด และเกาะไม้ซี้เล็ก
เกาะกูด มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ
2
รองจากเกาะช้างในจังหวัดตราด และเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4
ของประเทศไทย มีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 65,625 ไร่ โดยมีขนาดความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร
และขนาดความกว้าง 12
กิโลเมตร ลักษณะโดยทั่วไปของเกาะยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์
โดยมีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิด ลำธาร สายน้ำ
ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกหลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อบนเกาะกูด คือ น้ำตกคลองเจ้า (น้ำตกอนัมก๊ก)
จะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 3 ชั้น
โดยชั้นบนจะมีลักษณะเป็นลำธาร ส่วนชั้นล่างเป็นลำธารจากน้ำตกขนาดใหญ่
ซึ่งเหมาะแก่การเล่นน้ำอย่างมาก น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์
คือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 ทรงพระราชทานนามว่า "น้ำตกอนัมก๊ก"
เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือ
กษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจราจลในสมัยรัชกาลที่ 1
แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะกูด
อ่าวคลองเจ้า Klongjao bay
อ่าวคลองเจ้า เป็นอ่าวใหญ่มีหาดทรายขาวกว้างใหญ่ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะกูด เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ ด้านหลังมีคลองเจ้า ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าชายเลน ในช่วงค่ำคืนจึงมีหิ่งห้อยเกาะส่องแพรวพราว ตามต้นลำพู
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถไปเที่ยวน้ำตกคลองเจ้า น้ำตกที่สวยที่สุดบนเกาะกูด โดยการนั่งเรือชมธรรมชาติไปตามลำคลอง ต่อด้วยการเดินเท้าอีกเล็กน้อย
อ่าวยายกี๋
อ่าวยายกี๋
มีชายหาดขาวและยาวสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างดี
ฝั่งตรงข้ามคือเกาะแรด
เป็นเกาะขนาดเล็กที่โผล่พ้นน้ำไม่มากนัก
ราวกับว่าเวลาน้ำขึ้นสูง
บนเกาะจะเต็มไปด้วยน้ำที่ท่วมขังเลยทีเดียว
อ่าวตะเภา
อ่าวตะเภา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะกูด
อ่าวง่ามโข่
อ่าวง่ามโข่ เป็นอ่าวที่ทอดยาวอันแสนสงบ
หาดทรายยาว น้ำทะเลใส อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด
เนื่องจากการเดินทางสะดวกสบาย มีถนนตัดผ่าน แม้จะใช้ได้แต่รถมอเตอร์ไซค์
หรือจักรยาน ก็ยังดีกว่าเดิน ในละแวกเดียวกันยังมีชุมชนชาวเกาะไม่เล็กไม่ใหญ่
แต่ไม่แออัด บ้านเรือนกระจายกันอยู่ เพราะเป็นหาดที่ยาวมาก สมัยก่อน
หาดนี้เรียกกันว่าหาดงามโข นักท่องเที่ยวที่ประสงค์กางเต็นท์ก็ทำได้
เป็นหาดที่ชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามมาก
หาดคลองหิน
หาดคลองหิน
มีหาดทรายขาวยาวประมาณ 300 เมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขา
เชิงเขามีสวนมะพร้าวและป่าชายเลน
ส่วนบริเวณแหลมคลองหินเป็นจุดดำน้ำชมปะการังที่สวยงาม
อ่าวกล้วย
อ่าวกล้วย หาดทรายขาวละเอียด
บรรยากาศเงียบสงบปราศจากบ้านเรือนและผู้คน
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะกูด ที่สำคัญมีแหล่งหญ้าทะเลซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์น้ำนานาชนิด
อีกทั้งยังเป็นจุดดูนกประจำถิ่นและนกอพยพชนิดต่างๆ
อ่าวสลัด
อ่าวสลัด
อ่าวโค้งรูปตัวยูเป็นที่ตั้งของชุมชนประมงที่ใหญ่แห่งหนึ่งบนเกาะ มีสินค้าของฝากจากทะเลจำหน่าย
อ่าวบังเบ้า
อ่าวบังเบ้า หาดทรายยาวโค้งรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว เหมาะกับการลงเล่นน้ำ
ด้านหลังเป็นคลองบังเบ้าที่นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายักชมป่าชายเลนได้
อ่าวพร้าว
อ่าวพร้าว
เป็นหาดสุดท้ายปลายทางของเกาะกูดด้านทิศตะวันตก
บรรยากาศเงียบสงบมีชายหาดยาวที่สุด
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม บรรยากาศร่มรื่นโรแมนติก
นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บอดาแห่งกองทันเรือไทย
นอกจากนี้ไม่ไกลจากเกาะกูด
ยังมีจุดดำน้ำตื้นที่สวยงาม เช่น บริเวณเกาะยักษ์
เกาะรัง และเกาะกระ ซึ่งโดยมากจะพบปลาเล็กๆ
ว่ายเวียนอยู่ตามแนวปะการัง
การเดินทาง
ไปเกาะกูด ขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมศอก
เรือนิลมังกร เที่ยวไป เวลา 12:00 น. เที่ยวกลับ 09:00 น. ค่าโดยสาร 350 บาท/คน/เที่ยว
โทร. 086-1267860 ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง
หรือเรือซี พี สปีดโบ๊ท เที่ยวไป เวลา 09:00 น. เที่ยวกลับ
เวลา 12:00 น. ค่าโดยสาร 600 บาท/คน/เที่ยว โทร. 087-136 1102, 083-110
4448 ใช้เวลาประมาณ 1
ชั่วโมง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น